Dec

นอร์เวย์

Top 5 เมืองน่าไป ตามล่าแสงเหนือ นอร์เวย์ แสงชัดสดและสวยสุด!

แสงเหนือ หรือ ออโรรา (Aurora) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่มักเกิดขึ้นในแถบประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตละติจูดสูง ) หรือเห็นได้บริเวณขั้วโลกที่มีอุณหภูมิต่ำ อากาศหนาวเย็น โดยมีลักษณะแสงเรืองๆ เป็นแถบสีต่างๆ ฉายพาดผ่านท้องฟ้าในเวลากลางคืน ซึ่งหากเกิดบริเวณใกล้ขั้วโลกเหนือ จะเรียกว่า แสงเหนือ (Aurora borealis) และถ้าเกิดบริเวณใกล้ขั้วโลกใต้ จะเรียก แสงใต้ (Aurora australis) แน่นอนว่าสำหรับนักท่องเที่ยวหรือนักเดินทางที่รักการผจญภัย การตามล่าแสงเหนือ ถือเป็นภารกิจที่หลายคนตั้งเป้าไว้ว่าต้องทำให้สำเร็จสักครั้งหนึ่งในชีวิต และหนึ่งในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องพิกัดชมแสงเหนือ ที่ชัดและสวยที่สุดก็คือ แถบสแกนดิเนเวียอย่าง “ประเทศนอร์เวย์” นั่นเองงง และบทความนี้ พี่หมี F-Star Travel ก็จะมาชวนทุกคนไปผจญภัยเก็บประสบการณ์สุดมหัศจรรย์ ด้วยการ ล่าแสงเหนือ นอร์เวย์ กับ 5 พิกัดคัดแล้วว่าปัง ไปตามล่าแสงเหนือ นอร์เวย์ สวยชัดเต็มฟ้า เจ้าหญิงออโรร่ามาเต็ม! พร้อมบอกช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเจอ แสงเหนือ นอร์เวย์ ไปเดือนไหนดี ไปทั้งทีก้ต้องเจอให้ได้แหละ ใครไม่อยากพลาดไปเสียเที่ยวล่ะก็ มาตามปักหมุดไปพร้อมกับพี่หมีได้เลย!

ล่าแสงเหนือ นอร์เวย์ เดือนไหนดี

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการดูแสงเหนือในนอร์เวย์ คือ ช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน ถึงต้นเดือนเมษายน โดยในช่วงเวลานี้ กลางคืนจะยาวนานขึ้นและมืดลง จึงเป็นสภาวะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการชมแสงเหนือ ดังนั้น หากคุณวางแผนจะไปเที่ยวนอร์เวย์เพื่อชมแสงเหนือ ควรไปเที่ยวระหว่างเดือนกันยายนถึงมีนาคม นอกจากนี้ อย่าลืมตรวจสอบสภาพอากาศในท้องถิ่น และการพยากรณ์แสงออโรร่าเพื่อหาสภาวะที่เหมาะสมที่สุด เพื่อจะได้ไม่พลาดและเพลิดเพลินไปกับการผจญภัยล่าแสงเหนือแบบชัดจัดเต็ม!

โดยเวลาที่ชัดเจนและเหมาะสมที่สุดในการชมแสงเหนือในนอร์เวย์ อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพอากาศ กิจกรรมแสงอาทิตย์ และตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ โดยทั่วไป ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือในประเทศนอร์เวย์ คือระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 02.00 น. อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือแสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ และอาจคาดเดาไม่ได้ในบางครั้ง พี่หมีขอแนะนำให้ทุกคนตรวจสอบกับแหล่งข้อมูลท้องถิ่นหรือไกด์นำเที่ยวเพื่อรับข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและถูกต้องที่สุดนะคะ และนี่คือ 5 พิกัดตามล่าแสงเหนือ นอร์เวย์ ที่ดีที่สุด เห็นแสงสวยชัดเต็มฟ้า เจ้าหญิงออโรร่ามาเต็ม!

1. ทรอมโซ (Tromso)

ทรอมโซตั้งอยู่ทางตอนเหนือของนอร์เวย์ หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของนอร์เวย์ เป็นที่รู้จักในนาม "ประตูสู่อาร์กติก" รวมทั้งเป็น “เมืองหลวงแห่งการล่าแสงเหนือ นอร์เวย์” อีกด้วย เพราะเมืองนี้ตั้งอยู่เหนือเส้น Arctic Circle เพียง 350 กม. เท่านั้น จึงทำให้เมืองเป็นจุดที่สามารถชมแสงเหนือได้สวยและชัดที่สุด โดยเฉพาะในช่วงเดือนกันยายน ถึงเดือนมีนาคม จะเป็นช่วงพีคที่นักท่องเที่ยวอย่างเราจะสามารถเห็นลำแสงออโรร่า (Aurora) สีเขียวสดใสทอแสงไปทั่วท้องฟ้างดงามเกินบรรยาย และเมืองนี้สามารถเที่ยวได้สะดวก จะไปกับทัวร์พร้อมไกด์แนะนำ หรือออกผจญภัยด้วยตัวเองก็ได้เช่นกัน

เกร็ดความรู้

สนใจสัมผัสประสบการณ์แสงออโรร่า หรือแสงเหนือ นอร์เวย์ ห้ามพลาดทัวร์สแกนดิเนเวีย ทัวร์ล่าแสงเหนือ นอร์เวย์ จากพี่หมี F-Star ที่คัดมาแล้วว่าน่าไปสุด ๆ คลิกเลย

2. หมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten)

หมู่เกาะโลโฟเทนมีชื่อเสียงในด้านภูมิประเทศที่งดงาม ด้วยภูมิทัศน์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่ง ภูเขาสูงตระหง่าน ฟยอร์ดและชายหาดที่งดงาม จึงไม่น่าแปลกใจที่เกาะนี้จะเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มีเอกลักษณ์ และเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมติดอันดับโลกในการชมแสงเหนือ และทำกิจกรรมน่าตื่นเต้นอื่นๆ และสำหรับใครที่จะมาเที่ยวที่เกาะนี้ พลาดไม่ได้กับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินป่า ตกปลา และพายเรือคายัค แวะชมหมู่บ้านชาวประมงที่มีเอกลักษณ์ เช่น Reine และ Hamnøy ซึ่งคุณจะได้สัมผัสวัฒนธรรมนอร์เวย์แบบดั้งเดิม และเพลิดเพลินกับอาหารทะเลแสนอร่อย แสงเหนือหรือแสงออโรร่า บอเรลลิส เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของหมู่เกาะโลโฟเทนที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก หากคุณกำลังมองหาจุดหมายปลายทางที่เงียบสงบและน่าทึ่ง หมู่เกาะโลโฟเทน จะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่มาแล้วจะได้ความประทับใจและความคุ้มค่ากลับไปอย่างแน่นอน

3. อัลตา (Alta)

เมืองอัลตาตั้งอยู่ทางเหนือสุดของนอร์เวย์ ห่างจาก Artic Circle ราวๆ 375 กม. เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมแสงเหนือ โดยเมืองนี้มีอากาศหนาวเย็นสุดขั้วในช่วงฤดูหนาว และช่วงกลางคืน รวมทั้งสภาพท้องฟ้าอากาศแจ่มใสมาก ทำให้เราสามารถมองเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือได้ชัดมากขึ้น นอกจากการชมแสงเหนือในยามค่ำคืนแล้ว ที่เมืองอัลตายังมีงานเทศกาล Finnmarksløpet ซึ่งเป็นการแข่งขันรถลากเลื่อนสุนัขชื่อดังของยุโรป อีกทั้งยังขึ้นเรื่องการแกะสลักหิน ความงดงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ทำให้เมืองอัลตาได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกด้วย

4. เกาะสฟาลบาร์ (Svalbard)

สฟาลบาร์ หรือ สฟาลบาร์ด (Svalbard) หมู่เกาะซึ่งตั้งอยู่สุดเขตของประเทศนอร์เวย์ โดยมีดินแดนตรงข้ามเป็นขั้วโลกเหนือ และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆ เช่น หมีขั้วโลก กวาง Svalbard และ หมาจิ้งจอก โดยที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่เพื่อนๆ สามารถชมแสงเหนือได้ตลอดทั้งวันในช่วงฤดูหนาว(มาก) ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ใครพร้อมสู้และทนกับความที่ทั้งวันที่มืดมิดตลอด 24 ชั่วโมง และความหนาวยะเยือกที่อุณหภูมิติดลบได้ล่ะก็ มาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่ และไฮไลท์ในส่วนฤดูร้อน ที่เมืองนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนจะได้เห็นพระอาทิตย์เที่ยงคืน อีกหนึ่งเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ใจ แบบที่ต้องมาซักครั้งก่อนตายก็ไม่เกินจริง

5. เมืองแอนเดเนส (Andenes)

เมืองแอนเดเนส ประเทศนอร์เวย์ เมืองชายฝั่งซึ่งเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการชมแสงเหนือ เมืองนี้ตั้งอยู่เหนือ Arctic Circle และมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นความสวยงามของแสงเหนือ ท่ามกลางท้องทะเลและท้องฟ้าที่มืดมิด เรียกว่าเป็นฉากหลังที่สมบูรณ์แบบสำหรับการชมแสงเหนือเฉดสีเขียว ชมพู และม่วง สุดอลังการละลานตา ซึ่งขอแนะนำให้เพื่อนๆ มาที่นี่ในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเมษายน เพราะ ในช่วงเวลานี้เวลากลางคืนจะยาวนานขึ้น เพิ่มโอกาสในการชมปรากฏการณ์แสงเหนือได้มากขึ้นนั่นเอง นอกจาการมาล่าแสงเหนือแล้ว เมืองนี้ยังมีกิจกรรม และวัฒนธรรมที่น่าสนใจน่าเรียนรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การล่องเรือชมฝูงวาฬเพชฌฆาต หรือวาฬสเปิร์ม ขอบอกเลยว่ามาที่นี่จะได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวและการเดินทางที่ดีที่สุดอีกทริปในชีวิตเลยล่ะ

เกร็ดความรู้